เนื่องในวันนี้ 27 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของมัตสึเระซังเราก็เลยอัพบล็อกซะหน่อย (อ้างไปเรื่อย)
「12時まで魔法は解けない、ガラスの靴は脱ぎません。SKEのかすみ草、松井玲奈です。」
“เวทมนตร์จะไม่เสื่อมคลายจนกว่าจะเที่ยงคืน ฉันจะไม่ทำรองเท้าแก้วหลุดหรอกนะ คาสึมิโซแห่ง SKE มัตสึอิ เรนะค่ะ”
นี่คือวลีแนะนำตัวของมัตสึอิ เรนะ
สองประโยคแรกเข้าใจว่ามาจากเรื่องซินเดอเรลล่า พอถึงเที่ยงคืนเวทมนตร์จะเสื่อม แถมยังทำรองเท้าแก้วหลุดอ่อยเจ้าชายอีกกกกก -_- แต่มัตสึเระบอกว่า เค้าจะไม่ทำรองเท้าแก้วหลุดหรอกนะ ….อะไรที่ออกจากปากนางมักมีนัยแฝงเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน (นี่แฟนคลับหรือนักตีความ)
ความหมายของ
“เวทมนตร์จะไม่เสื่อมคลายจนกว่าจะเที่ยงคืน ฉันจะไม่ทำรองเท้าแก้วหลุดหรอกนะ” คืออะไร?
มัตสึอิ เรนะไขความกระจ่างไว้ในรายการ McPlus ของวันที่ 26 พ.ค. 2014 ว่า
“เวทมนตร์จะเริ่มต้นใหม่เมื่อถึงเที่ยงคืนของวันถัดไป
เพราะฉะนั้น เวทมนตร์จะยังคงมีผลสืบเนื่องไปตลอดกาลค่ะ”
นางว่าเงี้ย…..
………..จะบอกว่าเป็นคนฉลาด(แบบศรีธนญชัย)หรือกวนติงดีนะ ……อืม
คลายข้อสงสัยของมัตสึเรลล่าแล้ว เรามาเข้าประเด็นหลักกันดีกว่า
What’s คาสึมิโซ!?
กะเหรี่ยงทุกคนคงจะอุทานคำนี้ อินี่ก็เช่นกัน ….อัลไลอะ คาสึมิโซ พอกูเกิลแล้วก็พบว่าเป็นดอกไม้เล็ก ๆ น่ารักจุ๋มจิ๋ม มโนภาพบังเกิดว่า อ่อ นี่คืออิมเมจของมัตสึอิ เรนะนี่เอง
เป็นอิมเมจที่ไม่มีข้อกังขา ดูสมกับเป็นมัตสึอิ เรนะอย่างไร้ที่ติ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรดิโอ คาชิวากิ ยูกิ โนะ YUKIRIN TIME วันที่25 ก.ค. 2015
ยูกิรินก็พูดในหัวข้อดอกไม้ที่มีภาพลักษณ์เข้ากับตัวเองด้วย
มีสามดอกให้เลือกคือ คาสึมิโซ, กุหลาบ, ไฮเดรนเยีย
ยูกิรินบอกว่าชอบไฮเดรนเยียมาก ส่วนกุหลาบชอบดอกที่ไม่ใช่สีแดง
ตบท้ายด้วยการบอกว่า คาสึมิโซให้ภาพลักษณ์ของเรนะซัง
ไม่รู้ว่ามัตสึอิ เรนะจะตั้งใจหรือเปล่า
แต่ดูเหมือนภาพลักษณ์ของดอกคาสึมิโซจะกลายเป็นของเจ้าตัวไปแล้ว
คาสึมิโซ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ยิปโซฟิลล่า (Gypsophila)
มีถิ่นกำเนิดจากที่ราบของรัสเซียและไซบีเรีย แพ้อากาศร้อน แต่ทนทานต่อความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนและอุณหภูมิระหว่างฤดูกาล สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตคือ ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป
จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของนางเอก F4 ที่ชื่อดอกหญ้า (ซันไช่ – ฉบับไต้หวัน) บอกว่าที่พ่อแม่ตั้งชื่อนี้ให้ด้วยความหมายว่า เพราะหญ้ายิ่งโดนเหยียบมากเท่าไร มันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันหรอก ก็แค่นึกถึง………… แต่พวกดอกไม้เล็ก ๆ ไม่โดดเด่นในสายตามักจะมีความหมายในทำนองนี้นะ
เมื่อเป็นดอกไม้ ก็ต้องมีภาษาดอกไม้ใช่มั้ยล่ะ คาสึมิโซก็เช่นกัน
Baby’s breath เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของคาสึมิโซ “ลมหายใจของทารกหรือบุคคลอันเป็นที่รัก”
ความหมายโดยรวมของดอกคาสึมิโซฉบับญี่ปุ่นคือ
“จิตใจบริสุทธิ์” “ความไร้เดียงสา” “ความโอบอ้อมอารี” “ความสุขสมบูรณ์”
และความหมายของภาษาดอกคาสึมิโซฉบับตะวันตกก็คือ
everlasting love (รักนิรันดร์)
purity of heart (จิตใจบริสุทธิ์)
innocence (ใสซื่อ)
นอกจากจะมีสีขาวและสีชมพูซึ่งเป็นสีพื้นฐานของคาสึมิโซทั่วไปแล้ว
ยังมี คาสึมิโซสีฟ้า (青いかすみ草 ) อันมีความหมายว่า “จิตใจใสสะอาด” ด้วยนะ
อันนี้น่าจะเหมาะกับมัตสึเระซังสุด♥
(ในจิตใจนี่ไม่ได้คิดโม่ยเด็กเลยจริง ๆ แค่เอ็นดูเท่าน้าน ….สาบาน)
ในโคเอ็นวันเกิดปีก่อน ๆ และปีที่แล้วที่มาประกาศแกรด(จากอายุ 22) ก็ได้ช่อดอกคาสึมิโซสีขาวด้วยนะ อืม แม่คนจิตใจใสซื่อ ทำโอตะใจสั่นทั้งแฟนด้อม คุกเข่าขอขมาซะ
แล้วทำไมก็ไม่รู้ จูรินะดันได้ช่อดอกคาสึมิโซสีฟ้าในวันเกิดปีนี้ 5555555555
จูรินะ : อ้าว ดอกคาสึมิโซสีฟ้านี่นา?
เรนะ: เอ๊ะ?
ในชุดคอสตูมของเพลง Mae no Meri ซิงเกิลสุดท้ายของมัตสึอิ เรนะก็ใช้ภาพลักษณ์ของดอกคาสึมิโซประดับบนพื้นชุดสีขาว แบบที่เจ้าตัวชอบ
จากบล็อกของสุดะ อาการิ
“คอสตูมใหม่มีดอกไม้สีส้มเล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางการไล่สีของสีชมพูกับสีม่วงด้วยนะ♪
ที่เป็นดอกไม้เพราะเรนะซังพูดตลอดว่าตัวเองเป็นคาสึมิโซแห่งSKEรึเปล่านะ?
แล้วดอกไม้สีส้มก็หมายถึง SKE รึเปล่า?
แต่จินตนาการของคอนเสปท์ดีไซน์ก็รู้สึกตื่นเต้นซะแล้วสิ”
มัตสึอิเรนะคนใสซื่อ…..
เมื่อมองภาพลักษณ์ของดอกคาสึมิโซกับมัตสึอิ เรนะแล้ว จุดร่วมคือความเป็น Wallflower
หรือไม้ประดับ ไม่ได้โดดเด่นงามพริ้งแบบดอกกุหลาบ ไม่ได้สดใสเบ่งบานไม่แพ้แสงอาทิตย์
เหมือนดอกทานตะวัน คาสึมิโซเป็นพุ่มไม้เล็กที่ขึ้นอยู่บนยอดเขาสูงอย่างเงียบเชียบท่ามกลางม่านหมอก ไม่ดึงดูดสายผู้ใด มันแค่แตกกิ่งก้านผลิดอกอยู่ตรงนั้น ผลิบาน แตกกิ่ง ร่วงโรย โดยไม่อยู่ภายใต้การเฝ้ามองของใคร แต่เป็นดอกไม้ที่เมื่อมีใครสังเกตเห็น มันจะช่วยผ่อยคลายจิตใจให้สงบลงได้ เป็นดอกไม้ที่มีลักษณะตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับกุหลาบแดงปากจัดจอมซึนของเจ้าชายน้อย
ถึงคาสึมิโซจะไม่ใช่ดอกไม้หลักในการจัดช่อ แต่เป็นดอกไม้ประดับที่ขาดไม่ได้เลยในการชูโรงดอกหลัก เหมือนกับ การเป็นเซนเตอร์ก็จำเป็นต้องมีคนที่ไม่ใช่เซนเตอร์ช่วยค้ำจุนจึงจะโดดเด่นขึ้นมาได้ ประมาณนั้น
มัตสึอิ เรนะใช้คาสึมิโซในวลีแนะนำตัวเพื่อบอกว่า นิสัยเค้าอาจจะไม่ใช่คนโดดเด่นสะดุดตาจนไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเค้าก็ได้ แต่กระนั้น ก็มองเค้าด้วยนะ
จนวันนี้ ไม้ประดับดอกนั้นก็กลายมาเป็นดอกไม้หลักของช่อดอกไม้ SKE48
สุขสันต์วันเกิดนะคะ มัตสึเระซัง : )
ป.ล. เพิ่งนึกขึ้นได้ หนังเรื่อง The Perks of Being a Wallflower สนุกและดีงามมาก แนะนำแรง (ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเอนทรี่หรอก แต่มีจุดร่วมนิดนึง ….มั้ง)
ใส่ความเห็น